Search Results
พบ 189 ผลลัพธ์เมื่อไม่ระบุค่าการค้นหา
โพสต์ในบล็อก (31)
- การใช้ Mixed Gas กับการผลิตอาหาร
การใช้ Mixed Gas ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารเป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์อาหาร โดยเฉพาะในด้าน Modified Atmosphere Packaging (MAP) และ Controlled Atmosphere Storage (CAS) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมสัดส่วนของก๊าซต่างๆ ในบรรจุภัณฑ์หรือในพื้นที่จัดเก็บอาหาร ประเภทของ Mixed Gas ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ไนโตรเจน (N₂) ใช้แทนที่ออกซิเจนเพื่อลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ป้องกันการเติบโตของแบคทีเรียที่ต้องใช้ออกซิเจน ใช้ในบรรจุภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว กาแฟ และผลิตภัณฑ์แห้ง คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์นม ออกซิเจน (O₂) ควบคุมสีของเนื้อสัตว์ให้ดูสด (ช่วยให้เนื้อแดงดูสดขึ้น) ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจน เช่น Clostridium spp. ใช้ในบรรจุภัณฑ์ของผักสดและผลไม้ อาร์กอน (Ar) ช่วยรักษาความสดใหม่ของไวน์และเบียร์ โดยลดปฏิกิริยากับออกซิเจน ใช้แทนไนโตรเจนในบางกระบวนการเพื่อรักษาคุณภาพอาหาร การใช้งาน Mixed Gas ในอุตสาหกรรมอาหาร Modified Atmosphere Packaging (MAP) เป็นการปรับแต่งบรรยากาศภายในบรรจุภัณฑ์เพื่อยืดอายุอาหาร ตัวอย่าง เช่น การใช้ CO₂ และ N₂ ในบรรจุภัณฑ์ของเนื้อสัตว์สด อาหารทะเล และขนมปัง Controlled Atmosphere Storage (CAS) ควบคุมสภาพแวดล้อมในการจัดเก็บผลไม้ ผัก และเมล็ดพืช ลดปริมาณ O₂ และเพิ่ม CO₂ เพื่อชะลอการสุก การใช้ Mixed Gas ในเครื่องดื่ม CO₂ ใช้ในน้ำอัดลมและเบียร์เพื่อเพิ่มความซ่า N₂ ใช้ในเครื่องดื่มกาแฟหรือเบียร์แบบไนโตร (Nitro Coffee/Nitro Beer) การใช้ Mixed Gas ในกระบวนการผลิต ออกซิเจนช่วยเร่งกระบวนการหมักของแบคทีเรียในอุตสาหกรรมอาหารหมัก ไนโตรเจนช่วยในการลำเลียงผงแป้งและวัตถุดิบแห้งในโรงงาน ข้อดีของการใช้ Mixed Gas ในอุตสาหกรรมอาหาร · ยืดอายุการเก็บรักษา โดยลดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ · รักษาคุณภาพของอาหาร ป้องกันการเปลี่ยนสีและลดการสูญเสียความสด · เพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนจากเชื้อโรค · ช่วยให้การขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการเสียหายของสินค้า ข้อควรระวัง · การเลือกใช้ก๊าซต้องเหมาะสมกับประเภทของอาหาร · ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารและสุขอนามัย · ต้องมีการควบคุมและตรวจสอบความเข้มข้นของก๊าซอย่างเหมาะสม Mixed Gas มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการบรรจุภัณฑ์และการเก็บรักษา ซึ่งช่วยให้สามารถรักษาคุณภาพอาหารได้นานขึ้นและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค ปริมาณ Mixed Gas ที่เหมาะสม ปริมาณของ Mixed Gas ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ด้านล่างคือตัวอย่างสัดส่วนก๊าซที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารประเภทต่างๆ 1. Modified Atmosphere Packaging (MAP) สำหรับอาหารสด ประเภทอาหาร O₂ (%) CO₂ (%) N₂ (%) หมายเหตุ เนื้อวัวสด 60 - 80 20 - 40 0 - 10 ควบคุมสีแดงของเนื้อ เนื้อหมูสด 40 - 60 20 - 40 10 - 30 คงความสด ลดแบคทีเรีย ไก่สด 0 - 5 20 - 40 60 - 80 ลดออกซิเจนเพื่อป้องกันการเกิดจุลินทรีย์ ปลาและอาหารทะเล 30 - 40 40 - 60 0 - 30 ควบคุมแบคทีเรียและกลิ่นคาว อาหารสำเร็จรูป (เช่น แซนด์วิช สลัด) 0 - 5 30 - 60 40 - 70 ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย 2. Modified Atmosphere Packaging (MAP) สำหรับผลิตภัณฑ์แปรรูปและขนม ประเภทอาหาร O₂ (%) CO₂ (%) N₂ (%) หมายเหตุ ไส้กรอกและผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์แปรรูป 0 - 10 20 - 40 60 - 80 ป้องกันเชื้อจุลินทรีย์และลดการเหม็นหืน ขนมขบเคี้ยว (มันฝรั่งทอด ข้าวโพดอบกรอบ) 0 0 - 30 70 - 100 ใช้ไนโตรเจนแทนที่ออกซิเจน ป้องกันการแตกหัก ขนมปังและเบเกอรี่ 0 - 5 20 - 30 70 - 80 ควบคุมความชื้นและเชื้อรา ชีส 0 - 5 30 - 40 60 - 70 ควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่ต้องการ 3. Controlled Atmosphere Storage (CAS) สำหรับผักและผลไม้ ประเภทอาหาร O₂(%) CO₂ (%) N₂ (%) หมายเหตุ แอปเปิล 1 - 3 1 - 5 92 - 98 ลดอัตราการสุกและการเสื่อมสภาพ กล้วย 2 - 5 3 - 5 90 - 95 ควบคุมการปล่อยก๊าซเอทิลีน ยืดอายุ องุ่น 2 - 5 3 - 5 90 - 95 ลดการเกิดราและการเหี่ยว มะเขือเทศ 2 - 5 3 - 5 90 - 95 ควบคุมการสุกช้า มันฝรั่ง 2 - 5 3 - 5 90 - 95 ป้องกันการแตกหน่อและเสื่อมสภาพ 4. การใช้ Mixed Gas ในเครื่องดื่ม ประเภทเครื่องดื่ม ก๊าซที่ใช้ ปริมาณที่ใช้ (โดยประมาณ) หมายเหตุ เบียร์สด CO₂ 2.2 - 2.8 ปอนด์/ตร.นิ้ว ควบคุมแรงดันและฟอง เบียร์ไนโตร (Nitro Beer) N₂ + CO₂ 70% N₂ + 30% CO₂ ให้เนื้อฟองเนียนนุ่ม น้ำอัดลม CO₂ 2.5 - 3.5 ปอนด์/ตร.นิ้ว เพิ่มความซ่า กาแฟไนโตร (Nitro Coffee) N₂ 100% ทำให้กาแฟมีเนื้อสัมผัสนุ่มและครีมมี่ 5. การใช้ Mixed Gas ในกระบวนการผลิต ประเภทกระบวนการ ก๊าซที่ใช้ ปริมาณโดยประมาณ หมายเหตุ การลำเลียงแป้งหรือผงอาหาร N₂ 90 - 100% ป้องกันการระเบิดของฝุ่นแป้ง การหมักไวน์ CO₂ 100% ใช้แทนออกซิเจน ป้องกันการเกิดออกซิเดชัน การบรรจุไวน์และเครื่องดื่ม Ar 100% ช่วยไล่ออกซิเจนและคงรสชาติ การแพ็คผลิตภัณฑ์นม (โยเกิร์ต นมพาสเจอร์ไรส์) CO₂ + N₂ 30 - 50% CO₂ + 50 - 70% N₂ ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย สรุป เนื้อสัตว์สดและอาหารทะเล ใช้ O₂ และ CO₂ เพื่อรักษาสีและป้องกันแบคทีเรีย ขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แห้ง ใช้ N₂ เพื่อป้องกันออกซิเจนและลดการเหม็นหืน ผลไม้และผัก ใช้ CAS (Controlled Atmosphere Storage) ลด O₂ และเพิ่ม CO₂ เพื่อชะลอการสุก เครื่องดื่มอัดก๊าซ ใช้ CO₂ และ N₂ เพื่อให้ฟองและรสชาติที่ต้องการ กระบวนการผลิตอาหาร ใช้ N₂ และ Ar เพื่อลดออกซิเดชันและเพิ่มความปลอดภัย การใช้เครื่องปิดฝากระป๋อง คู่กับเครื่อง Mixed Gas เครื่องปิดฝากระป๋องทุกรุ่นของลาซสเตปออกแบบมาให้สามารถต่อกับชุดปล่อยแก๊ส (Service unit set) ไม่ว่าจะเป็นการต่อกับถังแก๊สไนโตรเจน (N2)โดยตรง หรือต่อกับเครื่องผสมแก๊ส (Gas Blender or Gas Mixer) เพื่อรองรับการใช้งานในระบบบรรจุภัณฑ์แบบบรรยากาศดัดแปลง (Modified Atmosphere Packaging – MAP) ที่ช่วยยืดอายุอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการเน่าเสียโดยไม่ต้องใช้สารกันเสีย คงความสด สี กลิ่น และรสชาติของอาหาร เพิ่มคุณภาพสินค้า ลดของเสีย และเหมาะสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการส่งสินค้าไปตลาดไกลหรือจำหน่ายในช่องทางที่ต้องการความสดใหม่ยาวนานขึ้น กระป๋อง PET ฝาดึง — ตัวเลือกที่เหมาะสำหรับ M.A.P. Food ระดับ SME ด้วยคุณสมบัติหลัก 3 ข้อที่ตอบโจทย์: 1. Puncture Resistant ตัวกระป๋องทำจาก PET ที่แข็งแรงและทนต่อแรงกระแทกหรือของมีคมในอาหาร ลดความเสี่ยงจากการเจาะทะลุในระหว่างขนส่งหรือวางจำหน่าย 2. Sealing Reliability ฝาอลูมิเนียมฝาดึง (Pull-tab) ซีลได้แน่นหนา เมื่อนำไปใช้ร่วมกับ เครื่องปิดฝากระป๋อง (Can Seamer) ที่เหมาะสม ปิดสนิท ลดการรั่วซึมของก๊าซ และยืดอายุสินค้าในบรรยากาศควบคุม (MAP) 3. Low Water Transmission Rate วัสดุ PET มีคุณสมบัติกันความชื้นได้ดี ช่วย รักษาความกรอบ / ความแห้ง / คุณภาพของอาหาร เช่น อาหารทอด อาหารอบ
- LZM13: เครื่องปิดฝากระป๋องที่เป็นมากกว่าเครื่องจักร — มันคือผลลัพธ์ของการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
เพราะเราไม่ใช่แค่ขายเครื่องจักร... เราเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของเราเอง กว่าจะมาเป็น LZM13 ที่คุณเห็นในวันนี้เราเดินทางมาไกลกว่าที่หลายคนคิด เริ่มต้นจาก LZM01 — เครื่องเท้าเหยียบตัวเล็กที่ตั้งบนโต๊ะ พัฒนาเป็น LZM03 ที่ยังมีคนใช้งานอยู่ถึงทุกวันนี้ ต่อด้วย LZM07 ฐานสีขาว ที่ทั้งสวยขึ้น แข็งแรงขึ้น และในที่สุด... เรามาถึง LZM13 เครื่องที่รวมข้อดีทุกอย่างจากรุ่นก่อน และตัดข้อด้อยที่เคยมีออกไปหมด เรากล้าพูดว่า LZM13 ไม่ใช่เครื่องที่ดีที่สุดเพราะโชคช่วย แต่มันคือผลลัพธ์จากการลงสนามจริง ทดสอบจริง และรับฟังเสียงลูกค้ามาอย่างยาวนาน เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเลือก LZM13 คุณไม่ได้แค่ซื้อเครื่องปิดฝากระป๋อง แต่คุณได้เอาประสบการณ์กว่า 10 ปี ของเรา ไปใช้เริ่มต้นธุรกิจของคุณด้วย เครื่องรุ่นเล็ก ที่จุดประกายฝัน และทำให้ฝันของ SME เป็นจริงมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าคุณจะขายของออนไลน์ หรือเปิดหน้าร้านอยู่ริมถนน ไม่ว่าคุณจะเป็นบาริสต้าที่อยากบรรจุเครื่องดื่มเอง หรือแม่ค้ามือใหม่ที่อยากให้สินค้าของตัวเองดู “มีแบรนด์” ขึ้นมาอีกขั้น LZM13 คือคำตอบ เป็นเครื่องปิดฝากระป๋องที่ใช้งานง่ายแบบที่... “ไม่ต้องรอช่าง” เรารู้ว่าการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ มันน่ากลัว โดยเฉพาะถ้าเป็นเครื่องจักร! แต่กับ LZM13 คุณไม่ต้องกลัวเลย แค่เปิดวิดีโอคอลกับทีมเทคนิคของเรา ลูกค้าก็สามารถใช้งานเครื่องเองได้ในไม่กี่นาที เราออกแบบมาเพื่อคนที่ไม่เคยใช้เครื่องปิดฝากระป๋องมาก่อน เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย ทุกชิ้นส่วนมีมาตรฐานเดียวกัน ประกอบง่าย ซ่อมง่าย พร้อมคู่มือ และคลิปวิดีโอการใช้งานอย่างละเอียด เครื่องปิดฝากระป๋องรุ่นเล็ก แต่พลังไม่เล็ก ปิดได้ 480 กระป๋องต่อชั่วโมง ใช้ได้กับกระป๋องเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 – 83 มม. ค่าไฟเพียง 0.27 บาท/ชม. น้ำหนักเบา 27 กก. เคลื่อนย้ายได้สะดวก ประกันคุณภาพ 1 ปีเต็ม วิศวกรรมที่ออกแบบมาด้วยหัวใจ — เพราะเราเข้าใจ SME มากกว่าผู้ขายทั่วไป LZM13 ไม่ใช่แค่เครื่องปิดฝากระป๋องธรรมดาแต่มันคือเครื่องที่เกิดจากความตั้งใจของทีมวิศวกรไทยที่ “สร้าง” มันขึ้นมาจริง ๆ ด้วยความเข้าใจคนใช้งานทุกขั้นตอน เพราะเรารู้ว่า… เครื่องที่ดี ต้องไม่ใช่แค่ทำงานได้ แต่ต้องทำได้ดี เสถียร และดูแลง่าย โครงสร้าง ไร้รอยเชื่อม หลีกเลี่ยงปัญหาสนิมและการบิดงอในระยะยาว ลดแรงดึงภายในเนื้อโลหะ = เครื่องไม่คด ไม่โยก มอเตอร์ Mitsubishi Induction (Brushless) มาตรฐานญี่ปุ่นระดับสากล ระบายความร้อนดี ทำงานต่อเนื่องได้ถึง 24 ชั่วโมง ไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อน ความชื้น หรือฝุ่น ระบบ Oil-Free ไม่มีการหล่อลื่นด้วยน้ำมัน = ลดการบำรุงรักษาและ ลดโอกาสปนเปื้อนในอาหาร อย่างปลอดภัย Chuck & Roller ใช้ SUS440C ความแข็งสูงพิเศษ แข็งแรงทนทานระดับอุตสาหกรรม ปิดกระป๋องได้กว่า 3,000,000 ครั้ง เคลือบผิวด้วยเทคโนโลยีระดับอุตสาหกรรม = ทนสนิม ทนรอยขีดข่วน ใช้งานหนักได้จริง EDP (Electro Deposition Painting) Electroless Nickel Plating Hard Chrome Plating ชิ้นส่วนหลายจุดใช้ Engineering Plastic คุณภาพสูง น้ำหนักเบา ไม่ขึ้นสนิม และยังดูแลรักษาง่าย ผลิตด้วยเครื่อง CNC แม่นยำสูง ชิ้นส่วนทุกชิ้นเท่ากันเป๊ะทุกเครื่อง ไม่มีปัญหาเรื่อง “อะไหล่ไม่ลงตัว” เหมือนเครื่อง OEM จีน ใช้ชิ้นส่วนมาตรฐานญี่ปุ่น & เยอรมนีแท้ ประกอบในไทยโดยทีมวิศวกรคนไทย 100% ไม่ใช่สินค้านำเข้า OEM จีน ที่แค่แปะโลโก้เกาหลี หรือญี่ปุ่นแล้วขาย ราคาถูกและดี เริ่มต้นได้ทันที แค่เดือนละ 2,943 บาท (ผ่อน 0% นาน 10 เดือน) ไม่ต้องรอให้พร้อมไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่แต่ได้เครื่องที่ เป็นมืออาชีพ ใช้งานจริง และสร้างแบรนด์ของคุณได้ทันที อย่ารอให้พร้อม... เพราะธุรกิจจะไม่รอคุณ หลายแบรนด์ที่ดังในวันนี้ ก็เริ่มต้นจากเครื่องปิดฝากระป๋อง LZM13 ของลาซสเตป (LAZ-Step) แล้วคุณล่ะ... พร้อมจะเริ่มต้นมีเครื่องปิดฝากระป๋องของตนเองแล้วหรือยัง?
- "ลาซสเตป" ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย — CEO คุณโสภณ ลีลาธนาพิพัฒน์ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษที่มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ
บริษัท ลาซสเตป จำกัด ผู้ผลิตกระป๋องและเครื่องปิดฝากระป๋องแบรนด์คนไทย ที่มุ่งมั่นพัฒนาเครื่องปิดฝากระป๋องขนาดเล็กเพื่อสนับสนุน SME ไทย ให้ก้าวไกลได้อย่างมืออาชีพ ล่าสุด CEO ของเรา — คุณโสภณ ลีลาธนาพิพัฒน์ — ได้รับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ในการบรรยายครั้งนี้ ได้มีการถ่ายทอดความรู้และ ประสบการณ์จริงเกี่ยวกับ การตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการยกระดับผู้ประกอบการ แก่กลุ่มเจ้าของแบรนด์ ผู้ประกอบการในจังหวัดชัยภูมิ และ อาจารย์ นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ บรรยากาศเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความรู้เชิงปฏิบัติ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจในท้องถิ่น และจุดประกายแนวคิดใหม่ ๆ ให้กับนักศึกษาและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ "เราเชื่อว่าการพัฒนาผู้ประกอบการไทย คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต" ลาซสเตป ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน SME ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งบนเวทีธุรกิจ